6 Active Ingredients สำหรับ Skincare ปี 2025 ที่แบรนด์ดังห้ามพลาด

เปิดตำนานความงามสู่ยุควิทยาศาสตร์ล้ำสมัย

ค้นพบ 6 สารออกฤทธิ์ลักซ์ชัวรี่ ผสานภูมิปัญญาโบราณและวิทยาการล้ำยุค เพื่อพลิกโฉมผลิตภัณฑ์สกินแคร์ผิวหน้าระดับ High-end ในปี 2025

จากมรดกวัฒนธรรมสู่ความงามเหนือระดับ

เรื่องราวความงามระดับราชวงศ์กำลังหวนคืนสู่วงการวิทยาศาสตร์ความงามยุคใหม่ สารสกัดหายากที่เคยเป็นตำนานในตำรับโบราณ กำลังถูกปลุกให้มีชีวิตใหม่ด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย แบรนด์เครื่องสำอางพรีเมียมต่างมองหา “สารออกฤทธิ์พรีเมียม” ที่ทั้งหรูหราและทรงประสิทธิภาพ เพื่อนำเสนอนวัตกรรมความงามที่ทั้งสร้างความแตกต่างและเห็นผลลัพธ์ชัดเจน ในปี 2025 สารสกัดชั้นสูง 6 ชนิดจาก ZUBB BIOTECH กำลังโดดเด่นในฐานะหัวใจของผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าระดับ High-end ที่ผสาน heritage และ science เข้าด้วยกันได้อย่างลงตัว

องค์ประกอบเหล่านี้ไม่ได้เป็นเพียงส่วนผสม แต่ยังเล่าขานถึงภูมิปัญญาแห่งโลกตะวันออกและตะวันตก ตั้งแต่ผลไม้มงคลในตำราอายุรเวทอินเดีย ไปจนถึงไหมทองคำล้ำค่าจากแผ่นดินสยาม ทั้งหมดถูกยกระดับด้วยนวัตกรรมชีวภาพและ nano-encapsulation เพื่อคงคุณค่าบริสุทธิ์และส่งผ่านสู่ผิวอย่างล้ำลึก สู่การสร้างประสบการณ์บำรุงผิวอันเหนือระดับ เปล่งประกายความงามและคุณค่าแห่ง Luxury Skincare อย่างแท้จริง

6 Active Ingredients แห่งปี 2025

เราขอแนะนำ 6 Active Ingredients ระดับพรีเมียม ที่ได้รับการคัดสรรและพัฒนาด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง เหมาะสำหรับผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้าเกรดพรีเมียมที่ต้องการทั้งความโดดเด่นและประสิทธิผลที่พิสูจน์ได้ทางวิทยาศาสตร์ ดังต่อไปนี้:

IMMUNIC VITA-C สารสกัดมะขามป้อม วิตามินซีสูง ต้านอนุมูลอิสระ ลดการอักเสบ

Immunic Vita-C สกัดจากผลมะขามป้อมอินเดีย (Indian Gooseberry หรือ Amla) ผลไม้ศักดิ์สิทธิ์ตามตำราอายุรเวทที่ใช้เสริมสุขภาพและความงามมากว่าพันปี ในราชสำนักอินเดียโบราณ Amla ถูกยกย่องว่าเป็นผลไม้แห่งความเยาว์วัย ด้วยปริมาณวิตามินซีและสารต้านอนุมูลอิสระตามธรรมชาติสูงเป็นพิเศษ

สารสกัดมะขามป้อมนี้อุดมด้วยวิตามินซีธรรมชาติที่มีความเสถียรสูงและสารโพลีฟีนอลอื่นๆ ที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระอย่างทรงพลัง วิตามินซีธรรมชาติจาก Immunic Vita-C สามารถซึมเข้าสู่ผิวได้ล้ำลึกและออกฤทธิ์อย่างอ่อนโยนกว่าวิตามินซีสังเคราะห์ โดยงานวิจัยพบว่าสารสกัด Amla ช่วยกระตุ้นการสร้างโปรคอลลาเจนในเซลล์ผิวหนัง และยับยั้งการสร้างเอนไซม์ที่ทำลายคอลลาเจน (MMP-1) ได้อย่างมีนัยสำคัญ ส่งผลให้โครงสร้างผิวแข็งแรงและยืดหยุ่น ลดเลือนริ้วรอยที่เกิดจากการเสื่อมของคอลลาเจนตามวัย

Immunic Vita-C นำเสนอคุณค่าของวิตามินซีจากธรรมชาติที่มีความบริสุทธิ์สูง สื่อถึงภาพลักษณ์ “หรูหราแบบยั่งยืน” เพราะสกัดจากผลไม้ออร์แกนิค ช่วยให้ผิวกระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ ลดจุดด่างดำ และเสริมภูมิต้านทานผิวตามชื่อ Immunic (immune + cosmetic) ผสานคุณสมบัติต้านการอักเสบ ทำให้ผิวแข็งแรงและสุขภาพดี ผลลัพธ์คือผิวหน้าดูโกลว์ใส มีชีวิตชีวา เปล่งประกายด้วย Anti-aging สารสกัดธรรมชาติ จากมะขามป้อม

การประยุกต์ใช้ในผลิตภัณฑ์

Immunic Vita-C เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้ากลุ่ม Brightening & Anti-Aging เช่น เซรั่มวิตามินซีเข้มข้น เอสเซนส์บูสท์ผิว หรือครีมบำรุงกลางคืนระดับพรีเมียม สูตรที่มี Immunic Vita-C จะโดดเด่นในด้าน ผิวกระจ่างใส ลดรอยหมองคล้ำ และเสริมการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิว จึงเหมาะกับผลิตภัณฑ์ Luxury skincare ingredient 2025 ที่ต้องการทั้งความเป็นธรรมชาติและประสิทธิภาพชัดเจน

“มังคุด” ผลไม้ที่ได้ชื่อว่า ราชินีแห่งผลไม้ ไม่เพียงโดดเด่นที่รสชาติล้ำค่า แต่เปลือกมังคุดยังถูกใช้เป็นยาพื้นบ้านในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มาแต่โบราณ สารสกัดแซนโทน (Xanthone) จากเปลือกมังคุดนี้เป็นเสมือนขุมทรัพย์แห่งความงามที่เชื่อมโยงวัฒนธรรมพื้นเมืองเข้ากับความหรูหราร่วมสมัย Alpha Enrich Xanthone รวบรวมคุณค่าของ α-mangostin ซึ่งเป็นแซนโทนชนิดสำคัญในมังคุด ที่ผ่านการเพิ่มความเข้มข้น (enrich) ในระดับสูง สื่อถึงภาพลักษณ์แห่งความหรูหราเข้มข้นจากธรรมชาติไทยที่ทั่วโลกยอมรับ

แซนโทน คือ สารต้านอนุมูลอิสระประสิทธิภาพสูง กลุ่มนักวิจัยพบว่าแซนโทนธรรมชาติจากมังคุดมีฤทธิ์ทางชีวภาพหลากหลาย ทั้งต้านการอักเสบ ลดการติดเชื้อจุลินทรีย์ และยังยับยั้งกระบวนการทำลายคอลลาเจนในผิว โดยเฉพาะ α-mangostin มีผลยับยั้งแบคทีเรียที่ก่อสิว (เช่น P. acnes และ S. epidermidis) ได้อย่างมีประสิทธิภาพในความเข้มข้นต่ำมาก นอกจากนี้ยังช่วยลดการหลั่งสารก่อการอักเสบอย่าง TNF-α, IL-1β และ IL-6 ในเซลล์ผิวที่ถูกกระตุ้นด้วยเชื้อสิว ทำให้การอักเสบบวมแดงของสิวลดลงอย่างชัดเจน คุณสมบัติเหล่านี้ทำให้ Alpha Enrich Xanthone เป็นสารออกฤทธิ์ชั้นเลิศสำหรับผลิตภัณฑ์ Anti-acne และ Anti-aging ไปพร้อมกัน ผิวไม่เพียงไร้สิว แต่ยังดูอ่อนเยาว์เรียบเนียน

สารแซนโทนเข้มข้นจากมังคุดถือเป็น สารออกฤทธิ์ลักซ์ชัวรี่ ที่ผสานคุณค่าพื้นเมืองกับงานวิจัยทันสมัยอย่างลงตัว ภาพลักษณ์ของสารนี้คือความล้ำค่าจากธรรมชาติเมืองร้อน ที่ให้ผลลัพธ์ระดับวิทยาศาสตร์ เมื่อใช้ในผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้า สารนี้จะช่วยลดการเกิดสิวใหม่ ยับยั้งเชื้อแบคทีเรียและการอักเสบในผิว ปรับสมดุลความมันบนใบหน้า พร้อมทั้งเติมสารต้านอนุมูลอิสระเพื่อปกป้องผิวจากความเสื่อมชราก่อนวัย ผู้ใช้จะสัมผัสได้ถึงผิวที่ เรียบเนียน กระจ่างใส และสุขภาพดี ราวกับได้รับการปรนนิบัติจากผลิตภัณฑ์สปาระดับห้าดาวที่มีสูตรส่วนผสมล้ำค่า

การประยุกต์ใช้ในผลิตภัณฑ์

Alpha Enrich Xanthone เหมาะกับผลิตภัณฑ์กลุ่ม Acne Care และ Age-Defying ในเวลาเดียวกัน เช่น เซรั่มลดสิวและริ้วรอย, เอสเซนส์บำรุงผิวใสไร้สิว, ครีมบำรุงกลางวันสูตรแอนตี้ออกซิแดนท์ หรือแม้แต่ผลิตภัณฑ์มาส์กหน้าโคลนดีท็อกซ์ผิวสำหรับสปาระดับไฮเอนด์ การใส่สารนี้ลงในสูตรจะช่วยสร้างจุดขายว่าเป็น active ผิวหน้าเกรดพรีเมียม ที่ให้ผลชัดเจนทั้งการลดสิวและชะลอวัย ซึ่งหาคู่เปรียบได้ยากในตลาดทั่วไป

เสน่ห์ความงามจากผลไม้เมืองร้อนถูกหลอมรวมใน Puribrome ซึ่งเป็นเอนไซม์ Bromelain ที่สกัดบริสุทธิ์จากแกนสับปะรด บรอมีเลนถูกขนานนามว่า “เอนไซม์มหัศจรรย์” มาแต่โบราณ ชาวพื้นเมืองอเมริกากลางและฮาวายใช้เนื้อและแกนสับปะรดพอกแผลเพื่อลดการอักเสบและเร่งการสมานแผล ผลึกเอนไซม์ใสบริสุทธิ์ที่ได้จากสับปะรดใน Puribrome จึงเปรียบเสมือน ขุมพลังธรรมชาติ ที่หลอมรวมภูมิปัญญาดั้งเดิมเข้ากับความหรูหราทางวิทยาการสมัยใหม่

Bromelain เป็นเอนไซม์โปรตีเอสที่มีความสามารถในการย่อยโปรตีนเสื่อมสภาพบนผิวหนังอย่างอ่อนโยน Puribrome ซึ่งเป็นบรอมีเลนรูปแบบบริสุทธิ์นี้ จะช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วและเคราตินส่วนเกินออกอย่างนุ่มนวลโดยไม่ทำร้ายผิวชั้นดี เอนไซม์นี้ยังมีฤทธิ์ต้านการอักเสบและต้านอนุมูลอิสระที่ได้รับการวิจัยยืนยันไว้ด้วย งานวิจัยชี้ว่าบรอมีเลนสามารถลดการสร้างสาร PGE-2 และเอนไซม์ COX-2 ซึ่งเป็นสาเหตุของการอักเสบ บรรเทาอาการบวมแดงได้ดี นอกจากนี้ในหลอดทดลองยังพบว่าคลีนเซอร์ล้างหน้าที่ผสมบรอมีเลนสามารถยับยั้งเชื้อแบคทีเรียที่ก่อสิวบางชนิดได้ ขณะเดียวกัน สารสกัดสับปะรดที่อุดมวิตามินซีในตัวเองก็ช่วยเสริมการผลัดเซลล์และต่อต้านอนุมูลอิสระ ดังนั้น Puribrome จึงมีคุณสมบัติครบทั้ง ผลัดผิวเก่า-กระตุ้นผิวใหม่, ลดการอักเสบแดง และป้องกันการติดเชื้อแบคทีเรียไปพร้อมกัน

 Puribrome คือ ความหรูหราจากธรรมชาติในแบบ Tropical Luxury — การนำน้ำย่อยสับปะรดธรรมดามายกระดับให้เป็นส่วนผสมอันเลอค่าในขวดเครื่องสำอาง สารนี้มอบประสบการณ์การผลัดผิวอย่างอ่อนโยนเสมือนทำทรีตเมนต์ผิวหน้าด้วยเอนไซม์ในคลินิกชั้นนำ ผิวจะค่อยๆ เรียบเนียน กระจ่างใส รูขุมขนกระชับขึ้นโดยไม่รู้สึกระคายเคืองหรือบางลงเหมือนการใช้กรดผลไม้รุนแรง หลังใช้ผลิตภัณฑ์ที่มี Puribrome ผู้ใช้จะสัมผัสได้ถึงผิวที่ นุ่มลื่นดุจแพรไหม แต่งหน้าง่ายและเปล่งปลั่งมีสุขภาพดี เป็นการเติมความสุนทรีย์ให้กิจวัตรการบำรุงผิวด้วยสารสกัดระดับสูงที่ทั้งเห็นผลจริงและรู้สึกดีขณะใช้

การประยุกต์ใช้ในผลิตภัณฑ์

Puribrome เหมาะสำหรับผลิตภัณฑ์กลุ่ม Exfoliating & Renewal ระดับไฮเอนด์ เช่น เซรั่มเอนไซม์ผลัดเซลล์ผิว สำหรับกลางคืน, ครีมมาส์กหน้าสูตรเอนไซม์ที่ใช้สัปดาห์ละครั้งเพื่อดีท็อกซ์ผิว, โฟมล้างหน้าสูตรเอนไซม์สำหรับผิวแพ้ง่าย หรือทรีตเมนต์เอสเซนส์ที่ช่วยให้ผิวละเอียดเนียนใส การรวม Puribrome ไว้ในสูตรจะสร้างจุดขาย “ผลัดผิวอย่างอ่อนโยนแต่ได้ผลลัพธ์ระดับคลินิก” ซึ่งเป็นที่ต้องการอย่างมากในตลาดความงามพรีเมียมที่ผู้บริโภคคาดหวังทั้งความรู้สึกสบายและผลลัพธ์ชัดเจนหลังใช้

“ไหมไทย” ถือเป็นหนึ่งในสมบัติล้ำค่าของภูมิภาคเอเชีย สมัยโบราณเส้นไหมทองคำถูกสงวนไว้สำหรับราชวงศ์และชนชั้นสูงเท่านั้น นอกเหนือจากเนื้อผ้าที่งดงามแล้ว โปรตีนไหม ยังมีตำนานเล่าว่าบรรดาหญิงสูงศักดิ์ในอดีตนิยมนำรังไหมสีทองมาแช่น้ำอุ่นแล้วถูใบหน้า เพื่อให้ผิวเนียนนุ่มดุจแพรไหม Golden Flourish Fibroin ได้นำแรงบันดาลใจจากภูมิปัญญานี้มาสู่การสร้างสรรค์สารออกฤทธิ์โปรตีนไฟโบรอินจากไหมพันธุ์ไทยสีทองสายพันธุ์ “เหลืองไพโรจน์” ที่ขึ้นชื่อเรื่องเส้นใยละเอียดและสีทองหรูหรา สารนี้เป็นการยกระดับมิติ heritage ของไหมไทยสู่ส่วนผสมเครื่องสำอางระดับโลก

Fibroin เป็นโปรตีนเส้นใยหลักที่ได้จากเส้นไหมดิบ มีกรดอะมิโนโครงสร้างพิเศษที่มอบความแข็งแรงและยืดหยุ่นให้เส้นใยไหม เมื่อนำมาประยุกต์ในผลิตภัณฑ์บำรุงผิว โปรตีนไฟโบรอินจะทำหน้าที่เสมือนฟิล์มบางๆ เคลือบปกป้องผิว พร้อมทั้งกักเก็บความชุ่มชื้นให้ผิวอย่างมีประสิทธิภาพ งานวิจัยพบว่าโปรตีนไหมมีคุณสมบัติช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและต้านอนุมูลอิสระในเซลล์ผิว อีกทั้งยังช่วยลดการอักเสบต่างๆ ของผิวได้ เมื่อโปรตีนไฟโบรอินถูกไฮโดรไลซ์เป็นโมเลกุลที่เล็กลง (Silk Fibroin Hydrolysate) ก็สามารถซึมซาบเข้าสู่ชั้นผิวเพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอิลาสติน ทำให้ผิวกระชับขึ้น นอกจากนี้ไฟโบรอินยังมีฤทธิ์สะท้อนรังสี UV เล็กน้อย เสริมการปกป้องผิวจากแสงแดดทางกายภาพอีกทางหนึ่ง ผลลัพธ์จากการใช้ Golden Flourish Fibroin คือผิวที่ได้รับการฟื้นบำรุงให้ แข็งแรง แน่นกระชับ ยืดหยุ่น แลดูอ่อนเยาว์เปล่งปลั่งอย่างเห็นได้ชัด

Golden Flourish Fibroin มอบนิยามความหรูหราให้ผิวคุณ ด้วย “ราชินีแห่งเส้นไหม” โปรตีนไฟโบรอินจาก ZUBB BIOTECH ที่มาพร้อมเทคโนโลยีการสกัดล้ำสมัย สู่ Fibroin Hydrolysate โมเลกุลเล็กพิเศษ ซึมซาบสู่ผิวได้อย่างล้ำลึกและละลายน้ำได้ดี พร้อม Micro Capsule Technology ช่วยกักเก็บคุณค่าสดใหม่จนกว่าจะถูกปลดปล่อยเมื่อทา ทำให้มั่นใจในประสิทธิภาพยาวนาน สัมผัสเนื้อสัมผัสบางเบาดุจแพรไหม ที่เคลือบปกป้องผิวให้รู้สึกตึงกระชับทันที โดยไม่เหนอะหนะ การใช้ต่อเนื่องจะช่วยให้ผิวเรียบเนียน ริ้วรอยและรูขุมขนแลดูลดลง เผยผิวแมตต์แลดูสุขภาพดีอย่างเป็นธรรมชาติ ไร้กลิ่นและสี ไม่พึงประสงค์ ตอบโจทย์ผู้ที่มองหาผลลัพธ์โดดเด่นจากภายในพร้อมความหรูหราสง่างามอย่างแท้จริง

การประยุกต์ใช้ในผลิตภัณฑ์

Golden Flourish Fibroin เหมาะสำหรับผลิตภัณฑ์ Premium Facial Care ที่เน้นการฟื้นฟูและปกป้องผิว เช่น เซรั่มยกกระชับผิวหน้า, ครีมลดเลือนริ้วรอยระดับเคาน์เตอร์แบรนด์, มอยส์เจอร์ไรเซอร์เนื้อไหม (silky cream) สำหรับกลางวัน, หรือสลีปปิ้งมาส์กเนื้อโปร่งที่เคลือบผิวก่อนนอน ในทุกรูปแบบ ผลิตภัณฑ์ที่มีไฟโบรอินจะช่วยสร้างจุดต่างด้วยคำเคลมเรื่อง “ผิวเนียนละเอียดดุจแพรไหม” และการปกป้องผิวแบบมองไม่เห็น ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่ลูกค้ากลุ่ม High-end ปรารถนา

Sericin คือโปรตีนอีกชนิดจากรังไหม ซึ่งเปรียบเสมือนกาวธรรมชาติที่ยึดเส้นใยไหม (Fibroin) สองเส้นเข้าด้วยกัน ในอดีตโปรตีนเซริซินอาจถูกมองข้ามและล้างออกไปในการสาวไหม แต่ปัจจุบันมันถูกยกย่องว่าเป็น “ขุมทรัพย์ที่ซ่อนอยู่ในรังไหม” ตำนานการใช้รังไหมถูหน้าในหมู่หญิงชาววัง ไม่เพียงได้ประโยชน์จากใยไฟโบรอิน แต่สารเคลือบไหม (ซึ่งก็คือเซริซิน) ก็ละลายออกมาบำรุงผิวด้วย Golden Flourish Sericin สกัดจากไหมสายพันธุ์สีทองเช่นเดียวกับไฟโบรอินข้างต้น สารนี้จึงต่อยอดเรื่องราว heritage ของไหมทองคำ พร้อมเสริมภาพลักษณ์ความลักซ์ชัวรี่ด้วยคุณสมบัติการบำรุงผิวอันโดดเด่น

Sericin มีโครงสร้างเป็นโปรตีนโมเลกุลใหญ่ที่อุดมด้วยกรดอะมิโนขั้วบวกและขั้วกลาง เช่น Serine, Threonine ซึ่งมีคุณสมบัติอุ้มน้ำสูง โปรตีนเซริซินจึงขึ้นชื่อเรื่อง การให้ความชุ่มชื้น และ การสร้างฟิล์มเคลือบผิว ที่ช่วยลดการสูญเสียน้ำออกจากผิว (Transepidermal Water Loss) ยิ่งไปกว่านั้น งานวิจัยสมัยใหม่ค้นพบว่าเซริซินมีฤทธิ์เป็นสารแอนติออกซิแดนท์ สามารถดูดซับรังสี UV ได้บางส่วน และมีฤทธิ์ยับยั้งเอนไซม์ไทโรซิเนสที่ใช้ในการสร้างเม็ดสีเมลานินในผิว จึงมีส่วนช่วย ปรับสีผิวให้สว่างใสขึ้น นอกจากนี้เซริซินยังช่วยปกป้องผิวจากความเสียหายที่เกิดจากรังสี UVB และลดการอักเสบของผิวที่โดนแสงแดดจัดด้วยการลดการสร้างไซโตไคน์อักเสบ (เช่น IL-1, IL-6) ตามที่มีรายงานในวารสารวิทยาศาสตร์ล่าสุด โปรตีนเซริซินยังแสดงฤทธิ์ Anti-aging ครบวงจร ไม่ว่าจะเป็นการต่อต้านอนุมูลอิสระ ป้องกันการเกิดริ้วรอยใหม่ และลดการทำลายคอลลาเจนและอีลาสตินใต้ผิว

Golden Flourish Sericin เปรียบเสมือน “ครีมข้นอาหารผิว” จากธรรมชาติ มอบความชุ่มชื้นล้ำลึกและปกป้องผิวรอบด้าน โปรตีนเซริซินจะช่วยเติมเต็มร่องผิว ทำให้ผิวเรียบลื่นขึ้นทันทีที่ใช้ พร้อมเสริมปราการผิวให้แข็งแรง เมื่อใช้อย่างต่อเนื่อง ผิวจะยืดหยุ่นขึ้น ริ้วรอยตื้นและจุดด่างดำแลดูจางลง เผยผิวโกลว์กระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ เหมาะกับผลิตภัณฑ์ Anti-aging ที่ต้องการความอ่อนโยนแต่ทรงพลัง ZUBB BIOTECH สกัดเซริซินด้วยเทคนิคพิเศษ ถนอมโครงสร้างโปรตีนให้มีน้ำหนักโมเลกุลหลากหลาย ทั้งแบบที่สร้างฟิล์มเคลือบผิวและแบบที่ซึมลึกถึงผิวชั้นใน นอกจากนี้ยังใช้ Nano-Encapsulated Sericin เพิ่มเสถียรภาพและประสิทธิภาพการซึมผ่าน ป้องกันการเสื่อมสลายจากอุณหภูมิและ pH ทำให้เซริซินคงคุณค่าและทำงานได้อย่างเต็มที่บนผิว ไม่ต้องกังวลเรื่องประสิทธิภาพลดลงระหว่างการผลิตและการเก็บรักษา

การประยุกต์ใช้ในผลิตภัณฑ์

Golden Flourish Sericin เหมาะอย่างยิ่งในผลิตภัณฑ์ Ultimate Hydration & Revitalizing เช่น ครีมบำรุงเข้มข้นสูตรไหม (Silk Cream) สำหรับกลางคืน, Facial Essence หรือน้ำตบที่มีส่วนผสมโปรตีนไหมช่วยให้ผิวเนียนเด้ง, ซีรั่มลดเลือนริ้วรอยสูตรอ่อนโยนสำหรับผิวแพ้ง่าย, หรือแม้แต่ผลิตภัณฑ์กลุ่มคลีนบิวตี้สำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ที่ต้องการการบำรุงและปกป้องผิวอย่างปลอดภัย ด้วยการใช้เซริซินเป็นตัวชูโรง ผลิตภัณฑ์จะสามารถสื่อสารถึงผู้บริโภคได้ว่าเป็น “การบำรุงผิวด้วยสารสกัดชั้นสูงที่ทั้งบำรุงและปกป้องในตัว” ซึ่งเป็นคุณค่าเพิ่มที่ผลิตภัณฑ์ระดับแมสไม่มี

จากป่าธรรมชาติบริสุทธิ์ของนิวซีแลนด์ สู่น้ำมันหอมระเหยหยดทองในขวดแก้วสุดหรู – นั่นคือนิยามของ Manuka Oil สารสกัดล้ำค่าจากต้นมานูก้า (Leptospermum scoparium) ซึ่งชนพื้นเมืองเมารีใช้ใบและน้ำมันในการรักษาบาดแผลและโรคผิวหนังมาตั้งแต่โบราณ น้ำมันมานูก้ามีชื่อเสียงโด่งดังขึ้นในระดับโลกควบคู่กับน้ำผึ้งมานูก้าอันโด่งดัง ด้วยคุณสมบัติการเยียวยาผิวตามธรรมชาติที่เหนือกว่าสมุนไพรอื่นๆ MBTK-20 Manuka Oil คือน้ำมันมานูก้าความบริสุทธิ์สูง ที่ผ่านการทดสอบและจัดระดับคุณภาพด้วยระบบ MβTK™ grading โดยตัวเลข 20+ ระบุว่ามีปริมาณสารสำคัญกลุ่ม β-triketones สูงไม่น้อยกว่า 20% ซึ่งเป็นเกรดที่เข้มข้นและให้ประสิทธิภาพในการดูแลผิวสูงมาก เหมาะสำหรับผลิตภัณฑ์สกินแคร์ระดับพรีเมียมที่ต้องการส่วนผสมเอกสิทธิ์เฉพาะ

น้ำมันมานูก้าได้รับการขนานนามในวงการวิทยาศาสตร์ว่าเป็น “ทีทรีออยล์แห่งนิวซีแลนด์” ที่ทรงพลังยิ่งกว่า สารออกฤทธิ์หลักคือกลุ่ม β-triketones (เช่น Leptospermone, Flavesone) ซึ่งมีฤทธิ์ต้านจุลชีพและต้านการอักเสบสูงมาก งานวิจัยพบว่าน้ำมันมานูก้าสามารถยับยั้งเชื้อแบคทีเรียแกรมบวกหลายชนิด เช่น Staphylococcus aureus และ Streptococcus ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแรงกว่าน้ำมันทีทรีปกติถึง 25–45 เท่า เลยทีเดียว จึงช่วยลดการเกิดสิว การติดเชื้อผิวหนัง และยังป้องกันการติดเชื้อซ้ำได้ดีเยี่ยม นอกจากฤทธิ์ฆ่าเชื้อแล้ว น้ำมันมานูก้ายังมีคุณสมบัติ anti-inflammatory เด่นชัด ช่วยปลอบประโลมผิวที่มีการอักเสบ ระคายเคืองแดง หรือแพ้ง่ายให้สงบลง ในการทดลองทางคลินิกกับอาสาสมัคร พบว่าการทาน้ำมันมานูก้า 10% บนผิวหนังที่ถูกแสง UV ทำลาย สามารถ ลดการหนาตัวของผิว ลดระดับความลึกและพื้นที่ของริ้วรอย ที่เกิดจากแสงแดดได้อย่างมีนัยสำคัญ อีกทั้งยังป้องกันการสูญเสียคอลลาเจนใต้ผิว และยับยั้งการเกิดไซโตไคน์อักเสบในผิวหนังอย่างได้ผล กล่าวคือ น้ำมันมานูก้าช่วยทั้งปกป้องผิวจากการเสื่อมชรา (photoaging) และฟื้นฟูโครงสร้างผิวที่ถูกทำร้าย ทำให้ผิวคงความอ่อนเยาว์เต่งตึงแม้ต้องเผชิญมลภาวะและแสงแดด

MBTK-20 Manuka Oil คือ “ขุมทรัพย์” จากธรรมชาติ ที่มอบประสบการณ์บำรุงผิวสุดหรูหรา ด้วยน้ำมันสีทองอำพันเนื้อบางเบา ซึมไว และกลิ่นหอมสะอาดเป็นเอกลักษณ์ ให้ความรู้สึกผ่อนคลายดุจอยู่ในสปา ช่วย “ปลอบประโลมผิวแบบองค์รวม” ทั้งฆ่าเชื้อสิว ลดการอักเสบ และเสริมการฟื้นตัว ผิวแพ้ง่ายหรือเป็นสิวจะแข็งแรงขึ้น รูขุมขนกระชับ ความมันลดลง พร้อมคงความชุ่มชื้นและยืดหยุ่น ผลลัพธ์คือผิวที่กระจ่างใส ไร้สิว รอยแดง และดูอ่อนเยาว์กว่าวัย

MBTK-20 ได้จากการกลั่นแบบ Steam Distillation จากใบมานูก้าป่าในนิวซีแลนด์ ผ่านการรับรองมาตรฐานความเข้มข้น β-triketones เกรด 20+ ZUBB BIOTECH นำมาพัฒนาเป็นระบบ Nanoemulsion ขนาดอนุภาคเล็กกว่า 100 นาโนเมตร ทำให้น้ำมันผสานเข้ากับเซรั่มหรือครีมได้อย่างเนียน ไม่แยกชั้น และช่วยให้น้ำมันซึมผ่านผิวเร็วขึ้นโดยไม่ทิ้งความมันวาว เทคโนโลยีการนำส่งระดับนาโนและการวิเคราะห์มาตรฐานสารสำคัญนี้ รับประกันประสิทธิภาพสูงสุดและความคงที่ ทำให้ผู้พัฒนาสูตรมั่นใจในผลลัพธ์ที่พิสูจน์ได้ทางวิทยาศาสตร์

การประยุกต์ใช้ในผลิตภัณฑ์

น้ำมันมานูก้า MBTK-20 เหมาะกับผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าระดับ Hi-end หลายประเภท โดยเฉพาะในกลุ่ม Treatment & Repair เช่น เซรั่มลดสิวผสมน้ำมันมานูก้า, Facial Oil บำรุงผิวสูตร anti-aging สำหรับกลางคืน, ครีมบำรุงกลางวันที่เน้นปกป้องผิวจากมลภาวะ, หรือแม้กระทั่งผลิตภัณฑ์ After-sun Repair Gel สำหรับผิวที่โดนแดดจัด การมี Manuka Oil เป็นส่วนผสมหลักจะช่วยเพิ่มมูลค่าและความน่าสนใจให้ผลิตภัณฑ์ เพราะผู้บริโภครับรู้ถึงชื่อเสียงของน้ำมันมานูก้าในด้านการบำรุงรักษาผิว เรียกได้ว่าเป็น สารออกฤทธิ์ลักซ์ชัวรี่ ที่สามารถใช้เป็นจุดขายให้ลูกค้ากลุ่มบนรู้สึกตื่นเต้นที่จะได้ลอง

นวัตกรรมเพื่อยกระดับผลิตภัณฑ์พรีเมียม

ในการพัฒนาสูตรผลิตภัณฑ์ระดับพรีเมียมนั้น จำเป็นต้องอาศัยองค์ประกอบที่มากกว่าแค่สารออกฤทธิ์คุณภาพสูง โดยครอบคลุมถึงเทคโนโลยีการนำส่งที่ก้าวหน้า เพื่อให้มั่นใจว่าสารสำคัญสามารถซึมเข้าสู่ผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพและออกฤทธิ์ได้ตรงจุด

ZUBB BIOTECH มีความเชี่ยวชาญในการพัฒนานวัตกรรมการกักเก็บและนำส่งสารออกฤทธิ์ระดับไมโครและนาโน ซึ่งรวมถึงเทคนิคที่เป็นที่รู้จัก เช่น ไลโปโซม (Liposome), นาโนอิมัลชัน (Nano-emulsion) และไมโครเอนแคปซูเลชัน (Micro-encapsulation) เทคโนโลยีเหล่านี้มีบทบาทสำคัญในการ:

  • ห่อหุ้มสารสำคัญ: ช่วยให้สารคงอยู่ในรูปแบบที่เสถียร ป้องกันการเสื่อมสภาพจากปัจจัยภายนอก เช่น แสง อากาศ หรือปฏิกิริยากับส่วนประกอบอื่นในสูตร
  • เพิ่มประสิทธิภาพการซึมผ่าน: เมื่อทาลงบนผิว อนุภาคขนาดเล็กเหล่านี้จะสามารถเคลื่อนผ่านชั้นผิวได้อย่างราบรื่น และปลดปล่อยสารออกฤทธิ์อย่างช้าๆ และต่อเนื่องสู่ชั้นผิวเป้าหมาย

นอกจากนี้ เทคโนโลยีการนำส่งระดับนาโน (Nano Delivery) ยังช่วยปรับปรุงคุณสมบัติทางกายภาพของผลิตภัณฑ์ ทำให้มีเนื้อสัมผัสที่บางเบา ซึมซาบเร็ว และไม่เหนียวเหนอะหนะ ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่ผู้ใช้ผลิตภัณฑ์ระดับสูงให้ความสำคัญ การผสานรวมนวัตกรรมการนำส่งอันล้ำสมัยเข้ากับสารออกฤทธิ์ทั้ง 6 ชนิดนี้ จึงช่วยยกระดับศักยภาพของสูตรผลิตภัณฑ์ให้สามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพตามที่ออกแบบไว้

การประยุกต์ใช้ในผลิตภัณฑ์พรีเมียม (Premium Skincare Applications)

สารออกฤทธิ์ระดับพรีเมียมทั้ง 6 นี้สามารถปรับใช้ได้กับผลิตภัณฑ์หลากหลายรูปแบบเพื่อตอบโจทย์การดูแลผิวหน้าขั้นสูง ครอบคลุมความต้องการของตลาดความงามระดับหรูในปี 2025 ไม่ว่าจะเป็น:

  • เซรั่ม (Serum): สูตรเซรั่มเข้มข้นที่อัดแน่นด้วยสารสกัดล้ำค่า เช่น เซรั่มวิตามินซี+Amla เพื่อผิวกระจ่างใส, เซรั่มลดเลือนริ้วรอยไหมทองคำ, เซรั่มลดสิวมังคุด-มานูก้า เนื้อบางเบา ซึมเร็ว ตอบโจทย์ลูกค้าที่ต้องการผลลัพธ์ตรงจุด
  • เอสเซนส์/น้ำตบ (Essence): เน้นการบำรุงผิวขั้นต้นหลังล้างหน้า เอสเซนส์ที่มีส่วนผสมของเซริซินและไฟโบรอิน จะช่วยให้ความชุ่มชื้นทันทีและเตรียมผิวให้รับการบำรุงขั้นต่อไปได้ดียิ่งขึ้น เติมความรู้สึกหรูหราตั้งแต่ขั้นตอนแรกของการดูแลผิว
  • ครีมบำรุง (Cream): ครีมระดับไฮเอนด์สำหรับกลางวันหรือกลางคืน สามารถชูสารออกฤทธิ์หลักเพื่อการตลาดได้ เช่น ครีมกลางวันสารสกัดมังคุด-สับปะรด ลดสิวผิวใส, ครีมกลางคืนไหมทองฟื้นบำรุงล้ำลึก หรือครีมบำรุงสารสกัดมานูก้าปกป้องผิวจากมลภาวะ ผลิตภัณฑ์กลุ่มครีมมักเน้นเนื้อสัมผัสหรูหรา และสารเหล่านี้ก็สามารถมอบเนื้อสัมผัสที่ดีควบคู่กับคุณสมบัติการบำรุงอย่างเต็มเปี่ยม
  • มาส์กและทรีตเมนต์ (Mask & Treatment): ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ใช้สัปดาห์ละครั้งหรือใช้เป็นคอร์ส ฟังก์ชันของสารออกฤทธิ์เหล่านี้จะยิ่งโดดเด่น เช่น แผ่นมาส์กหน้าอุดมไปด้วยวิตามินซีและโปรตีนไหมช่วยให้ผิวฟูในข้ามคืน, สครับเอ็นไซม์สับปะรดผลัดผิวใส, ทรีตเมนต์ออยล์ผสมมานูก้าสำหรับนวดหน้า ผสานอโรมาเธอราพี กลุ่มนี้สามารถสร้างประสบการณ์สุดพิเศษเสมือนทำสปาที่บ้าน
  • ผลิตภัณฑ์เฉพาะจุด (Spot Treatment): เช่น เจลแต้มสิวผสมสารแซนโทนและน้ำมันมานูก้า เพิ่มประสิทธิภาพการยับยั้งเชื้อและลดการอักเสบอย่างรวดเร็ว, ครีมทารอบดวงตาสารไหมทองคำช่วยลดริ้วรอยและความหมองคล้ำรอบดวงตาอย่างอ่อนโยนแต่ได้ผล

ในการพัฒนาสูตรผลิตภัณฑ์ระดับ High-end นั้น ความกลมกลืนขององค์ประกอบทุกด้าน—สารออกฤทธิ์ เนื้อสัมผัส กลิ่น และบรรจุภัณฑ์—ต้องประสานกันอย่างลงตัว สารสกัดทั้ง 6 นี้ไม่เพียงมีคุณสมบัติทางวิทยาศาสตร์ที่โดดเด่น แต่ยังเสริมสร้าง “story” ให้กับผลิตภัณฑ์ ทำให้ฝ่ายการตลาดของแบรนด์สามารถเล่าเรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับที่มาสารสกัดและเทคโนโลยีที่ใช้ สร้างความแตกต่างในตลาดและเพิ่มมูลค่าในสายตาผู้บริโภค

ก้าวสู่มิติใหม่ของความงามพรีเมียมกับ ZUBB BIOTECH

ถึงเวลาแล้วยิ่งกว่าที่เคย ที่เจ้าของแบรนด์เครื่องสำอาง นักพัฒนาสูตร และผู้บริหารโรงงานผลิต (OEM) จะยกระดับผลิตภัณฑ์ของตนด้วยสารออกฤทธิ์ล้ำค่าที่กล่าวมานี้ ZUBB BIOTECH พร้อมเป็นพันธมิตรที่จะช่วยคุณสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ระดับ World-class ที่มีเอกลักษณ์และประสิทธิภาพเหนือคู่แข่ง ด้วยทีมผู้เชี่ยวชาญและเทคโนโลยีการผลิตขั้นสูง เราสามารถสนับสนุนตั้งแต่การจัดหาสารสกัด สูตรตำรับ นวัตกรรมการกักเก็บสาร ไปจนถึงข้อมูลทางวิทยาศาสตร์เพื่อการตลาดครบวงจร

หากคุณต้องการลองสัมผัสประสิทธิภาพของ 6 สารออกฤทธิ์ระดับพรีเมียมนี้ด้วยตัวคุณเอง หรือต้องการปรึกษาแนวทางการพัฒนาสูตรผลิตภัณฑ์สำหรับแบรนด์ High-end ของคุณ อย่ารอช้า ติดต่อ ZUBB BIOTECH วันนี้ เพื่อขอรับตัวอย่างผลิตภัณฑ์ (Sample) และคำแนะนำเฉพาะทาง ฟรี! ให้เราร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการพลิกโฉมนวัตกรรมความงามของคุณ สู่อีกขั้นของความสำเร็จในตลาดความงามพรีเมียมปี 2025 และปีต่อๆ ไป

Reference List
  1. Fujii, T. et al. (2008). Amla (Emblica officinalis) extract promotes procollagen production and inhibits matrix metalloproteinase-1 in human skin fibroblasts. J. Ethnopharmacol. 119(1):53–57 – งานวิจัยแสดงว่าสารสกัดมะขามป้อมกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและยับยั้งการทำลายคอลลาเจนในเซลล์ผิวหนัง
  2. Chomnawang, M. et al. (2007). Effect of Garcinia mangostana on inflammation caused by Propionibacterium acnes. J. Ethnopharmacol. 114(3):358–363 – พบว่าสารสกัดเปลือกมังคุดมีฤทธิ์ต้านเชื้อ P. acnes และลดการอักเสบที่เกิดจากเชื้อสิว
  3. Ng, Y.Y. et al. (2020). Natural Xanthones and Skin Inflammatory Diseases: Multitargeting Mechanisms of Action and Potential Application. Front. Pharmacol. 11:594202 – บทปริทัศน์ครอบคลุมฤทธิ์ต้านแบคทีเรีย ต้านการอักเสบ และต้านอนุมูลอิสระของแซนโทนจากมังคุดต่อปัญหาผิวต่างๆ
  4. Abbas, S. et al. (2021). Applications of bromelain from pineapple waste towards acne. Saudi J. Biol. Sci. 28(1):1001–1009 – งานวิจัยชี้ว่าเอนไซม์บรอมีเลนมีฤทธิ์ต้านแบคทีเรียก่อสิวและลดการอักเสบของสิว
  5. Aad, R. et al. (2024). Sericin Protein: Structure, Properties, and Applications. J. Funct. Biomater. 15(11):322 – บทความปริทัศน์สรุปคุณสมบัติของโปรตีนเซริซินจากไหม เช่น ให้ความชุ่มชื้น, ต้านอนุมูลอิสระ, ต้านไทโรซิเนส และชะลอความเสื่อมของผิว
  6. Kwon, O.S. et al. (2013). Topical Administration of Manuka Oil Prevents UV-B Irradiation-Induced Cutaneous Photoaging in Mice. Evid. Based Complement. Alternat. Med. 2013:930857 – การศึกษาบ่งชี้ว่าน้ำมันมานูก้าทาผิวสามารถลดการเกิดริ้วรอยและความหนาของผิวที่ถูกทำร้ายด้วย UV พร้อมทั้งยับยั้งการอักเสบและการสูญเสียคอลลาเจนในผิว
บทความ