MβTK™ 20+ Mānuka Oil
น้ำมันมานูก้าเข้มข้นจากนิวซีแลนด์ ต้านแบคทีเรีย ลดสิว ต้านการอักเสบ ชะลอวัย และต้านเชื้อรา
Categories
Extract By
Efficacy
Certificate
สั่งซื้อได้ที่
MβTK™ 20+ Manuka Oil – น้ำมันมานูก้าเกรดพรีเมียมจากนิวซีแลนด์ เพื่อการรักษาสิวและต้านแบคทีเรียอย่างทรงพลัง
สารสกัดเข้มข้นประสิทธิภาพสูง ยับยั้งแบคทีเรีย ลดการอักเสบ คืนผิวใสไร้สิวด้วยพลังธรรมชาติจากมานูก้า
มานูก้า (Mānuka) คือพรรณไม้พื้นเมืองจากประเทศนิวซีแลนด์ที่ได้รับการขนานนามว่าเป็น “ทองคำจากธรรมชาติ” ของชาวเมารีมาตั้งแต่โบราณ ต้นมานูก้าขึ้นอยู่ทั่วไปในภูมิประเทศที่มีสภาพอากาศรุนแรงอย่างพื้นที่ East Cape ของนิวซีแลนด์ แต่ทนทานเติบโตได้ดีโดยไม่ย่อท้อต่อสายลมแรงและอากาศชื้นหนาวเย็น ชาวเมารีนำส่วนต่าง ๆ ของมานูก้ามาใช้รักษาโรคตามวิถีพื้นบ้านมายาวนาน ไม่ว่าจะเป็นการบดใบและเมล็ดมาประคบแผลสด ทำน้ำยาล้างบาดแผล แก้อาการอักเสบ ต้มน้ำจากเปลือกไม้ดื่มแก้ไข้และลดปวด หรือสูดดมไอน้ำต้มใบเพื่อบรรเทาอาการไอหวัด สมุนไพรพื้นเมืองชนิดนี้จึงเป็นดั่งยาสารพัดประโยชน์ในวัฒนธรรมเมารีมาโดยตลอด
ปัจจุบัน น้ำมันมานูก้า ซึ่งสกัดจากส่วนใบและกิ่งของต้นมานูก้า ได้กลายเป็นหนึ่งในสารสกัดจากธรรมชาติที่ถูกศึกษาอย่างกว้างขวางในวงการวิทยาศาสตร์การแพทย์และความงาม โดยมีงานวิจัยนับพันฉบับเผยแพร่ถึงคุณสมบัติในการรักษาโรคผิวหนังและเสริมสุขภาพผิว น้ำมันมานูก้าขึ้นชื่อด้านฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียและเชื้อราที่ทรงพลัง จนได้รับการเปรียบเปรยว่าเป็น “ญาติผู้มีประสิทธิภาพสูงกว่า” ของทีทรีออยล์จากออสเตรเลีย ด้วยศักยภาพในการกำจัดเชื้อโรคหลายสิบชนิดและช่วยสมานผิวได้อย่างน่าทึ่ง เมื่อภูมิปัญญาธรรมชาติผสานเข้ากับเทคโนโลยีสกัดสมัยใหม่ จึงเกิดเป็นผลิตภัณฑ์ MβTK™ 20+ Manuka Oil น้ำมันมานูก้าเกรดพรีเมียมที่นำคุณค่าล้ำค่าจากต้นมานูก้ามาสู่ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวของคุณ
(ภาพ: ต้นมานูก้าบานในภูมิประเทศ East Cape ประเทศนิวซีแลนด์)
ภาพรวมผลิตภัณฑ์ MβTK™ 20+ Manuka Oill
MβTK™ 20+ Manuka Oil คือสารสกัดน้ำมันมานูก้าความเข้มข้นสูงที่พัฒนาขึ้นโดย ZUBB Biotech ด้วยกระบวนการและเทคโนโลยีการสกัดขั้นสูงที่ให้ความบริสุทธิ์และประสิทธิภาพเหนือชั้น ผลิตภัณฑ์นี้เป็นน้ำมันหอมระเหยจากใบและกิ่งของต้นมานูก้า (Leptospermum scoparium) ซึ่งผ่านการสกัดด้วยเทคโนโลยี ซูเปอร์คริติคัลคาร์บอนไดออกไซด์ (Supercritical CO₂) ทำให้ได้สารสกัดเข้มข้นที่คงคุณค่าของสารออกฤทธิ์ตามธรรมชาติไว้อย่างครบถ้วน MβTK™ (ย่อจาก Manuka Beta-Triketone) สื่อถึงจุดเด่นของผลิตภัณฑ์ที่มีปริมาณสารสำคัญกลุ่ม β-triketone สูงเป็นพิเศษ โดยมีการรับรองว่ามีความเข้มข้นของสารกลุ่มนี้ไม่น้อยกว่า 20% (“20+”) จึงเป็นน้ำมันมานูก้าที่ทรงพลังและโดดเด่นกว่าเกรดทั่วไปในท้องตลาด
ในเชิงพาณิชย์ MβTK™ 20+ Manuka Oil ถือเป็นวัตถุดิบเกรดพรีเมียมสำหรับผลิตภัณฑ์ดูแลผิวและเวชสำอาง โดยเป็นการผสมผสานข้อดีของพลังธรรมชาติและนวัตกรรมการสกัดล้ำสมัย สารสกัดนี้มีความบริสุทธิ์สูง ปราศจากตัวทำละลายตกค้าง มีกลิ่นหอมตามธรรมชาติของมานูก้า และที่สำคัญคือมีฤทธิ์ในการยับยั้งเชื้อแบคทีเรียที่โดดเด่นซึ่งผ่านการทดสอบและยืนยันโดยงานวิจัยหลากหลายสำนัก ไม่เพียงเท่านั้น ZUBB Biotech ยังให้ความสำคัญกับการควบคุมคุณภาพในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การคัดสรรวัตถุดิบต้นกำเนิดจากแหล่งธรรมชาติที่ดีที่สุดในนิวซีแลนด์ ไปจนถึงกระบวนการผลิตที่ได้มาตรฐานสากล ทำให้ผู้ประกอบการมั่นใจได้ในความสม่ำเสมอของคุณภาพและประสิทธิภาพของ MβTK™ 20+ ทุกลอตการผลิต
MβTK™ 20+: พลังจากธรรมชาติ สู่ขีดสุดด้วยวิทยาศาสตร์
- ต้านแบคทีเรีย: น้ำมันมานูก้ามีคุณสมบัติในการยับยั้งและทำลายเชื้อแบคทีเรียได้อย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะเชื้อแบคทีเรียชนิดที่เป็นสาเหตุของปัญหาผิวหนังต่าง ๆ งานวิจัยในนิวซีแลนด์พบว่าน้ำมันมานูก้าจากสายพันธุ์ East Cape สามารถต่อต้านเชื้อแบคทีเรียก่อโรคสำคัญ เช่น Staphylococcus aureus (สาเหตุของการติดเชื้อผิวหนังและหนอง), Streptococcus และ Listeria ได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังมีฤทธิ์ยับยั้งเชื้อแบคทีเรียแกรมบวกอื่น ๆ รวมถึงสายพันธุ์ที่ดื้อยาปฏิชีวนะอย่าง MRSA อีกด้วย ความสามารถในการฆ่าเชื้อของน้ำมันมานูก้าได้รับการยอมรับว่าทรงพลังยิ่งกว่าทีทรีออยล์ โดยรายงานหนึ่งระบุว่าน้ำมันมานูก้ามีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียแกรมบวกบางชนิดได้แรงกว่าทีทรีออยล์จากออสเตรเลียถึง 20–30 เท่า ทำให้มันเป็นทางเลือกจากธรรมชาติที่น่าสนใจในการต่อสู้กับเชื้อจุลชีพต่าง ๆ
- รักษาสิว (ต้านสิว): หนึ่งในสาเหตุหลักของการเกิดสิวคือการที่ผิวมีเชื้อแบคทีเรีย Cutibacterium acnes (หรือ Propionibacterium acnes) สะสมอยู่มากเกินไป น้ำมันมานูก้าได้รับการวิจัยว่าเป็นตัวช่วยสำคัญในการลดปริมาณเชื้อชนิดนี้และบรรเทาการอักเสบของสิว งานทดลองในห้องปฏิบัติการพบว่า ความเข้มข้นของน้ำมันมานูก้าเพียง ~0.1% ก็สามารถฆ่าเชื้อ C. acnes ได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังพบว่าน้ำมันมานูก้าช่วยลดจำนวนเชื้อ Staphylococcus epidermidis ซึ่งเป็นอีกหนึ่งแบคทีเรียที่กระตุ้นการเกิดสิวบนผิวหน้าได้ด้วย ความสามารถในการต้านสิวนี้ส่งผลให้การใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของน้ำมันมานูก้าช่วยให้สิวยุบตัวเร็วขึ้น ลดการเกิดสิวใหม่ และปรับสมดุลผิวให้แข็งแรงสะอาดขึ้นโดยไม่ทำให้ผิวแห้งกร้านเหมือนสารเคมีรุนแรงบางชนิด
- ลดการอักเสบ: น้ำมันมานูก้ามีฤทธิ์ต้านการอักเสบตามธรรมชาติ ช่วยปลอบประโลมผิวที่ระคายเคืองและลดรอยแดงจากการอักเสบได้อย่างมีประสิทธิภาพ กลไกหนึ่งที่สำคัญคือการยับยั้งการสร้างสารเคมีสื่อการอักเสบบางชนิดในผิวหนัง ส่งผลให้การบวมแดงและความระคายลดลง งานวิจัยชี้ว่าน้ำมันมานูก้าสามารถลดการผลิตไซโตไคน์อักเสบในผิวหนังที่ถูกกระตุ้นด้วยรังสี UV-B ได้อย่างชัดเจน ทำให้การอักเสบของผิวลดลงอย่างมีนัยสำคัญ คุณสมบัติลดการอักเสบนี้เองที่มีส่วนช่วยให้สิวอักเสบยุบตัวเร็วขึ้น และยังช่วยปลอบประโลมผิวที่แพ้ง่ายหรือมีอาการระคายจากมลภาวะภายนอกได้ดี ถือเป็นสารสกัดจากธรรมชาติที่ตอบโจทย์ผิวบอบบางแพ้ง่ายอย่างแท้จริง
- ต้านเชื้อรา: นอกจากเชื้อแบคทีเรียแล้ว น้ำมันมานูก้ายังแสดงฤทธิ์ยับยั้งเชื้อราหลายชนิดที่ก่อให้เกิดปัญหาผิวหนังได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผลการศึกษาในห้องปฏิบัติการพบว่าน้ำมันมานูก้าสามารถยับยั้งการเจริญของเชื้อราที่เป็นสาเหตุของโรคผิวหนังอย่างเชื้อราในกลุ่ม Dermatophytes เช่น Trichophyton และ Microsporum ซึ่งทำให้เกิดกลาก เกลื้อน และเชื้อราบนผิวหนังส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย คุณสมบัติต้านเชื้อรานี้ทำให้น้ำมันมานูก้าเหมาะสำหรับใช้เป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์รักษารังแค (ที่เกิดจากเชื้อรา), ผลิตภัณฑ์ทาผิวรักษากลากเกลื้อน หรือผลิตภัณฑ์ดูแลเท้าที่ต้องการป้องกันเชื้อรา นับเป็นการเปิดมิติใหม่ในการดูแลปัญหาผิวด้วยสารสกัดธรรมชาติที่ครอบคลุมทั้งแบคทีเรียและรา
ชะลอวัย: น้ำมันมานูก้าอุดมด้วยคุณสมบัติต่อต้านอนุมูลอิสระและปกป้องผิวจากปัจจัยที่เร่งให้ผิวแก่ก่อนวัย ผลการศึกษาทางวิทยาศาสตร์พบว่าน้ำมันมานูก้าสามารถช่วยปกป้องผิวจากความเสื่อมที่เกิดจากรังสี UV ได้อย่างมีนัยสำคัญ ในการทดลองหนึ่งกับสัตว์ทดลอง เมื่อทาน้ำมันมานูก้า 10% บนผิวหนังของหนูที่ถูกฉายแสง UV-B ติดต่อกัน พบว่าหนูกลุ่มที่ใช้น้ำมันมานูก้ามีผิวบางลงและมีริ้วรอยตื้นขึ้นเมื่อเทียบกับกลุ่มที่ไม่ใช้สารใด ๆ โดยน้ำมันมานูก้าช่วยลดทั้งความลึกและพื้นที่ของริ้วรอย รวมถึงป้องกันการสูญเสียเส้นใยคอลลาเจนใต้ผิวหนังจากการถูกทำลายด้วยรังสี UV ผลลัพธ์นี้สอดคล้องกับคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระของน้ำมันมานูก้าที่ช่วยปกป้องเซลล์ผิวจากความเสียหาย นอกจากนี้ยังมีรายงานว่าน้ำมันมานูก้าช่วยกระตุ้นการสมานแผลและการสร้างเนื้อเยื่อใหม่ ซึ่งล้วนส่งเสริมให้ผิวดูอ่อนเยาว์และมีสุขภาพดีขึ้น ทำให้น้ำมันมานูก้าไม่ได้มีดีแค่เรื่องรักษาสิว แต่ยังเป็นส่วนผสมเพื่อการชะลอวัยและฟื้นบำรุงผิวในระยะยาวอีกด้วย
(ภาพ: ผลการทดลองพบว่าน้ำมันมานูก้าช่วยลดเลือนริ้วรอยและความหนาของผิวที่โดนทำร้ายด้วยรังสี UV-B)
MβTK™ 20+ Manuka Oil: นิยามใหม่ของความเข้มข้นและประสิทธิภาพด้วยเทคโนโลยี Supercritical CO₂
เทคโนโลยีการสกัด Supercritical CO₂: MβTK™ 20+ Manuka Oil ผลิตขึ้นด้วยกระบวนการสกัดคาร์บอนไดออกไซด์เหนือจุดวิกฤต (Supercritical CO₂ Extraction) ซึ่งเป็นเทคนิคการสกัดขั้นสูงที่ใช้ก๊าซ CO₂ ในสภาวะความดันและอุณหภูมิสูงที่ควบคุมอย่างเหมาะสม เพื่อดึงเอาสารสำคัญออกจากวัตถุดิบพืชได้อย่างหมดจด กระบวนการนี้มีข้อดีคือ ไม่ต้องใช้น้ำมันหรือตัวทำละลายเคมีใด ๆ จึงไม่มีสิ่งตกค้างที่เป็นอันตรายในผลิตภัณฑ์สุดท้าย อีกทั้งยังเกิดในสภาวะอุณหภูมิต่ำเมื่อเทียบกับการกลั่นแบบดั้งเดิม ทำให้สารออกฤทธิ์ที่ไวต่อความร้อนในน้ำมันมานูก้ายังคงอยู่ครบถ้วน การสกัดแบบ Supercritical CO₂ นี้ช่วยให้น้ำมันมานูก้าที่ได้มีความบริสุทธิ์สูง เข้มข้น และมีกลิ่นเฉพาะตัวตามธรรมชาติ โดยคงประสิทธิภาพทางชีวภาพไว้อย่างเต็มที่
β-Triketone ความเข้มข้นสูง: ความโดดเด่นของ MβTK™ 20+ Manuka Oil อยู่ที่ปริมาณของสารออกฤทธิ์กลุ่ม β-triketones ที่สูงกว่าน้ำมันมานูก้าทั่วไป สารกลุ่มเบตา-ไตรคีโตน เช่น Leptospermone, Isoleptospermone และ Flavesone เป็นองค์ประกอบเฉพาะในน้ำมันมานูก้าที่งานวิจัยเชื่อว่าเป็นกุญแจสำคัญของฤทธิ์ต้านจุลชีพอันทรงพลังของน้ำมันชนิดนี้ ยิ่งน้ำมันมานูก้ามีปริมาณ β-triketone สูงเท่าใด ประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อแบคทีเรียก็ยิ่งมากขึ้นเท่านั้น น้ำมันมานูก้าจากแหล่ง East Cape ในนิวซีแลนด์ขึ้นชื่อว่าเป็นสายพันธุ์ที่ให้ปริมาณ β-triketone สูงที่สุดตามธรรมชาติ เมื่อนำมาสกัดด้วยวิธีขั้นสูงยิ่งช่วยเสริมให้สารกลุ่มนี้เข้มข้นขึ้น MβTK™ 20+ ได้รับการตั้งชื่อให้สะท้อนถึงคุณสมบัตินี้ โดย “20+” หมายถึงมี β-triketone สูงกว่า 20% ขึ้นไปในน้ำมัน ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับสูงมากเมื่อเทียบกับน้ำมันมานูก้าทั่วไป (น้ำมันมานูก้าทั่วไปส่วนมากมีปริมาณไตรคีโตนราว 20% ในขณะที่บางแหล่งอาจสูงถึง 30–40%) สารสกัดของ ZUBB Biotech ตัวนี้จึงเปรียบเสมือน “หัวกะทิ” ของน้ำมันมานูก้า ที่อุดมไปด้วยสารออกฤทธิ์สำคัญในปริมาณเข้มข้น ยืนยันได้จากการทดสอบองค์ประกอบทางเคมีและเอกสารรับรองคุณภาพที่แนบมากับผลิตภัณฑ์แต่ละชุด
ด้วยเทคโนโลยีการสกัดแบบ Supercritical CO₂ ผสานกับวัตถุดิบชั้นเยี่ยมจากนิวซีแลนด์ MβTK™ 20+ Manuka Oil จึงมีความพิเศษทั้งในด้านความบริสุทธิ์และความแรงของการออกฤทธิ์ เป็นสารสกัดธรรมชาติที่ให้ผลลัพธ์เทียบเท่าหรือยิ่งกว่าสารสังเคราะห์บางชนิด แต่ยังคงไว้ซึ่งความปลอดภัยและอ่อนโยนต่อผิว
การนำ น้ำมันมานูก้า ต้านแบคทีเรีย มาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด มีวิธีอะไรบ้าง ?
ด้วยคุณสมบัติครอบคลุมทั้งการต้านแบคทีเรีย, ต้านสิว, ลดการอักเสบ และต้านเชื้อราดังกล่าว ทำให้ MβTK™ 20+ Manuka Oil สามารถประยุกต์ใช้เป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์ดูแลผิวได้หลากหลายประเภท โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์สำหรับผิวที่มีปัญหาสิวและการระคายเคือง เช่น:
- เจลแต้มสิว: ด้วยความสามารถในการฆ่าเชื้อ P. acnes และลดการอักเสบ น้ำมันมานูก้าเหมาะอย่างยิ่งสำหรับทำเป็นเจลแต้มสิวเฉพาะจุด ทาบาง ๆ บนหัวสิวก่อนนอนจะช่วยให้สิวยุบตัวลงและหัวสิวแห้งเร็วขึ้นโดยไม่ทิ้งรอยดำแดงมากนัก ผลิตภัณฑ์เจลแต้มสิวที่มีส่วนผสม MβTK™ 20+ จะช่วยจัดการกับแบคทีเรียที่ก่อสิวได้ตรงจุด พร้อมทั้งปลอบประโลมผิวบริเวณที่อักเสบไปในตัว
- เซรั่มบำรุงผิวสำหรับผิวเป็นสิวง่าย: การหยดน้ำมันมานูก้าในสัดส่วนที่พอเหมาะลงในเซรั่มหรือเอสเซนส์สูตรบางเบาสำหรับผิวมัน จะช่วยเสริมฤทธิ์ในการป้องกันการเกิดสิวใหม่และควบคุมสมดุลเชื้อแบคทีเรียบนผิวหน้า เมื่อใช้เป็นประจำทุกวัน เซรั่มที่มี MβTK™ 20+ จะช่วยให้ผิวหน้าสะอาดใส ลดความมันส่วนเกินที่เป็นอาหารของแบคทีเรีย และทำให้ผิวแข็งแรงขึ้นจนแบคทีเรียไม่สามารถเพิ่มจำนวนจนก่อให้เกิดสิวได้ง่าย
- คลีนเซอร์ล้างหน้า: การผสมน้ำมันมานูก้าลงในผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้า เช่น โฟมล้างหน้าหรือเจลล้างหน้า จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำความสะอาดให้ล้ำลึกยิ่งขึ้น นอกจากจะชะล้างสิ่งสกปรกและความมันแล้ว คลีนเซอร์ที่มี MβTK™ 20+ ยังช่วยกำจัดเชื้อแบคทีเรียบนผิวหน้าไปพร้อมกัน ลดโอกาสการเกิดสิวใหม่ตั้งแต่ขั้นตอนการล้างหน้า ทั้งยังอ่อนโยนกว่าสารฆ่าเชื้อเคมีทั่วไป ทำให้ผิวไม่แห้งตึงหลังล้างหน้า
- มาส์กหน้าและทรีทเมนต์มาส์ก: การนำสารสกัดมานูก้าใส่ในสูตรมาส์กพอกหน้าสำหรับผู้ที่มีปัญหาสิวหรือผิวแพ้ง่าย จะช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียบนผิวระหว่างที่พอกทิ้งไว้ รวมถึงลดการอักเสบและรอยแดงของสิวไปพร้อมกัน มาส์กที่อุดมด้วยน้ำมันมานูก้ายังช่วยฟื้นฟูผิวที่อ่อนแอให้แข็งแรงยิ่งขึ้นหลังการใช้ นอกจากนี้ยังสามารถนำไปประยุกต์ในแผ่นแปะสิว (acne patch) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการฆ่าเชื้อและลดการอักเสบเฉพาะจุดได้อีกด้วย
- ผลิตภัณฑ์อื่น ๆ: MβTK™ 20+ Manuka Oil ยังสามารถประยุกต์ใช้ในผลิตภัณฑ์หลากหลายตามความคิดสร้างสรรค์ของผู้พัฒนาสูตร เช่น ครีมบำรุงสำหรับผิวมันและผิวเป็นสิว, โทนเนอร์เช็ดผิวลดแบคทีเรีย, สบู่ล้างหน้าสำหรับคนเป็นสิว หรือแม้แต่ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายแบบธรรมชาติ (เนื่องจากสามารถยับยั้งแบคทีเรียที่ทำให้เกิดกลิ่นตัวได้) เรียกได้ว่าสารสกัดนี้มีความยืดหยุ่นในการใช้งานและเสริมประสิทธิภาพให้ผลิตภัณฑ์ได้หลากหลายประเภทตามโจทย์ที่ต้องการ
ความปลอดภัยที่คุณมั่นใจได้ เพราะผิวคุณสมควรได้รับสิ่งที่ดีที่สุด
MβTK™ 20+ Manuka Oil คือสารสกัดจากธรรมชาติที่ให้มากกว่าความบริสุทธิ์ ด้วยการคัดสรรและควบคุมคุณภาพในทุกกระบวนการผลิต ปราศจากสารต้องห้ามที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิว ไม่ว่าจะเป็น พาราเบน แอลกอฮอล์ น้ำหอม น้ำมันแร่ รวมถึง สารเคมีรุนแรงอื่นๆ ที่ส่งผลเสียในระยะยาว
นอกจากนี้ ยังยืนยันความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมด้วยการไม่ทดลองในสัตว์ (Cruelty-Free) และเป็นมิตรกับผู้ที่มี ผิวบอบบางหรือแพ้ง่าย จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้บริโภคที่ใส่ใจทั้งสุขภาพและหลักจริยธรรม
หากคุณกำลังมองหาสารสกัดที่ปลอดภัย พร้อมคุณสมบัติเพื่อการฟื้นฟูและปกป้องผิวอย่างแท้จริง ถึงเวลาที่คุณจะได้สัมผัสพลังของธรรมชาติจากนิวซีแลนด์ในขวดเดียว
เลือก MβTK™ 20+ Manuka Oil วันนี้ เพื่อผิวที่สะอาด แข็งแรง และเปล่งประกายอย่างเป็นธรรมชาติ
สำหรับเจ้าของแบรนด์สกินแคร์ นักพัฒนาสูตรเครื่องสำอาง หรือผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่กำลังมองหาสารออกฤทธิ์ใหม่ ๆ จากธรรมชาติเพื่อสร้างความแตกต่างและเพิ่มประสิทธิภาพให้กับสินค้า MβTK™ 20+ Manuka Oil คือนวัตกรรมวัตถุดิบที่คุณไม่ควรมองข้าม ด้วยคุณสมบัติการต้านแบคทีเรียและรักษาสิวที่โดดเด่น ผสานกับความปลอดภัยและภาพลักษณ์คลีนบิวตี้ ทำให้ผลิตภัณฑ์ใด ๆ ที่มีส่วนผสมของน้ำมันมานูก้าคุณภาพสูงนี้สามารถชูจุดขายด้านการเป็นผลิตภัณฑ์รักษาสิวจากธรรมชาติที่ได้ผลจริง และสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคที่ใส่ใจสุขภาพผิว
แหล่งอ้างอิง
- Porter, N. et al. (2000). Essential Oil Production from Mānuka and Kānuka. Crop & Food Research Broadsheet 116, July 2000. (รายงานการวิจัยพบว่าน้ำมันมานูก้า chemotype ที่มี β-triketone สูงจาก East Cape มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย Staph, Strep และเชื้อราได้ดี)
- Perry, N. B. et al. (1997). Essential oils from New Zealand manuka and kanuka: Chemotaxonomy of Leptospermum. Phytochemistry, 44(8), 1485-1494. (งานวิจัยด้านเคมีพฤกษศาสตร์ ระบุว่าน้ำมันมานูก้าจากต่างพื้นที่มีองค์ประกอบต่างกัน โดย East Cape มีสารกลุ่ม triketone สูงที่สุด)
- Alnaimat, S. et al. (2011). Antibacterial Action of Leptospermum scoparium Oil on MRSA. PhD Thesis, University of Sheffield. (วิทยานิพนธ์ปริญญาเอกที่ศึกษาฤทธิ์ฆ่าเชื้อของน้ำมันมานูก้าต่อแบคทีเรียดื้อยา MRSA พบว่าน้ำมันมานูก้าสามารถยับยั้งการเจริญและทำลายเซลล์ MRSA ได้อย่างมีนัยสำคัญ)
- Kim, H. et al. (2011). The effects of antimicrobial properties of manuka oil and improvement of acne. J. Korean Soc. Cosmetol., 17, 245–256. (งานวิจัยจากเกาหลีพบว่าการใช้น้ำมันมานูก้าช่วยลดปริมาณแบคทีเรียที่ทำให้เกิดสิว และส่งผลให้สภาพผิวที่เป็นสิวดีขึ้น)
- Kwon, O. S. et al. (2013). Topical Administration of Manuka Oil Prevents UV-B Irradiation-Induced Cutaneous Photoaging in Mice. Evidence-Based Complementary and Alternative Medicine, 2013, Article ID 930857. (การศึกษาทางวิทยาศาสตร์ยืนยันว่าน้ำมันมานูก้ามีฤทธิ์ชะลอความเสื่อมของผิวจากรังสี UV โดยลดริ้วรอยและการอักเสบในผิวหนังของหนูทดลอง)
